วัยรุ่น กับ แฟชั่น มันเป็นอะไรที่คู่กันจริงๆ นอกจากพวกเสื้อผ้า รองเท้า ที่เป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้ว พวกเครื่องประดับๆ เล็กๆ อย่าง สร้อย ต่างหู แว่นตา แหวน กำไล ก็ขยันซื้อเข้าห้องกันอยู่เรื่อยๆ เผลออีกทีก็เต็มห้องไปหมดแล้ว แต่จะหยิบมาใส่แต่ละทีก็หาไม่ค่อยเจอบ้าง พันกันบ้าง จริงไหมค่ะ?
งั้นเรามาจัดการเครื่องประดับที่มีอยู่ ให้มีระเบียบน่าหยิบใช้และเลือกง่ายกันดีกว่าค่ะ ไปดูไอเดีย น่ารักๆ ที่เพื่อนๆ สามารถไป DIY ทำที่เก็บกันได้ด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ รับรองว่ามีประโยชน์ใช้งานได้จริงๆ
หลักการง่ายๆ ของกระแสต่างหูในฤดูกาลนี้คือ ยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งดี ยุคแห่งเครื่องประดับที่เน้นความโดดเด่นกลับมาแล้ว เพราะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสไตล์ทุกวันนี้ ความโดดเด่นไม่เหมือนใครคือสิ่งสำคัญที่สุด ติดตามเทรนด์เครื่องประดับต่างหูมาแรงในปี 2018 ได้จากบทความนี้
หลักการง่ายๆ ของกระแสต่างหูในฤดูกาลนี้คือ ยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งดี Alex Eugene รายงาน ยุคแห่งเครื่องประดับที่เน้นความโดดเด่น (Statement Jewellery) กลับมาแล้ว เพราะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสไตล์ทุกวันนี้ ความโดดเด่นไม่เหมือนใครคือสิ่งสำคัญที่สุด
ถ้าพูดถึงเครื่องประดับที่ใช้งานง่ายที่สุด ต่างหูชนะคู่แข่งรายอื่นขาดลอย ไม่ว่าจะเป็นต่างหูแบบผู้หญิง แบบผู้ชาย หรือแบบใส่ได้ทั้งสองเพศ คนทุกเพศทุกวัยต่างใช้ต่างหูเพื่อช่วยเสริมเครื่องแต่งกายของตน ต่างหูมีคุณสมบัติบางอย่างที่เหมาะสำหรับทุกคน
ด้วยเหตุนี้ต่างหูจึงเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการสร้างยอดขายให้ร้านค้า ไม่ว่าอย่างไรต่างหูก็ได้ผ่านการพิสูจน์มานานหลายศตวรรษแล้วว่าเป็นเครื่องประดับประเภทหนึ่งที่คงอยู่มายาวนาน “เข็มกลัดหมุด ต่างหู สร้อยข้อมือชาร์ม และสร้อยคอ เป็นสิ่งที่ผู้คนใส่กันเป็นประจำทุกวันในยุคศตวรรษที่ยี่สิบ” นักข่าว Maureen Zambito เขียนไว้ในเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ The Intelligencer เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา “เมื่อถึงยุคทศวรรษ 1960 กระแสแฟชั่นเปลี่ยนแปลงไปโดยลดรูปลักษณ์งามสง่าแบบสุภาพสตรีแล้วหันไปหาแฟชั่นเก๋ๆ แบบฮิปปี้แทน... ถึงกระนั้นต่างหูก็ยังคงมีความสำคัญ”
รูปลักษณ์แบบวินเทจยังคงได้รับความนิยมและเป็นกระแสหลักอย่างแท้จริง นักออกแบบเครื่องประดับทุกวันนี้ได้นำเอาสไตล์แฟชั่นยุคก่อนๆ กลับมาทำใหม่และต่างหูก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นในยุคทศวรรษ 1960 นางแบบชาวอังกฤษ Twiggy สร้างความตื่นตะลึงด้วยการจับคู่เสื้อผ้าที่สะดุดตา เข้ากับต่างหูพลาสติกขนาดใหญ่ ในยุคทศวรรษ 1970 David Bowie ก็แต่งกายด้วยเสื้อผ้าอันน่าตื่นตาตื่นใจพร้อมด้วยต่างหูห้อยสีสันสดใส ทั้งแบบคู่และแบบเดี่ยว ส่วนในยุคทศวรรษ 1980 ศิลปินผู้โด่งดังอย่าง Madonna, Prince และ George Michael ก็ได้สืบสานแนวทางนี้ต่อมา
“เราได้เห็นกระแสความนิยมต่างหูที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นในช่วงราวปีที่แล้ว และดูเหมือนว่ากระแสนี้ก็ยังคงมาแรงในปีนี้ด้วย” Nina Agerskov Myrlund กล่าว เธอเป็นผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารที่ Dryberg/Kern แบรนด์ภายใต้การดูแลของบริษัทผู้จัดหา JLM ของออสเตรเลีย ตามความเห็นของ Myrlund แนวโน้มการใส่ต่างหูเงินข้างหนึ่งและใส่ต่างหูทองอีกข้างหนึ่งนั้นกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ขณะที่ Cheryle Roberts กรรมการผู้จัดการของบริษัทผู้จัดหา Stones & Silver กล่าวว่า ต่างหูห่วงทั้งขนาดใหญ่และเล็กถือเป็นหมวดสินค้าที่ขายดีที่สุดของทางแบรนด์ในงานแสดงสินค้าระยะหลังมานี้ “ดูเหมือนว่ายุคดิสโกในทศวรรษ 1980 กำลังกลับมา และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกในปี 2018” Roberts ระบุ
Chloe Sandland ผู้จัดการด้านการตลาดของ Buckley London มองว่า งานออกแบบท้าทายมากขึ้น เมื่อต่างหูที่เน้นความโดดเด่น มีสีสัน และมีขนาดใหญ่เจาะเข้าสู่แฟชั่นกระแสหลัก “ต่างหูห้อยรูปสายสร้อยและรูปพู่ ต่างหูห่วงขนาดใหญ่ และต่างหูที่ไม่เข้าคู่กัน ปรากฏให้เห็นตามย่านการค้าต่างๆ ในระยะหลังมานี้” Sandland กล่าว พร้อมเสริมว่า “คอลเล็กชันของเราในฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2018 มีต่างหูรูปทรงต่างๆ มีตัวเรือนหลายแบบ และเน้นไปที่ต่างหูแบบห้อย”
Helen Thompson-Carter กรรมการบริษัท Fabuleux Vous เห็นด้วยเช่นกันว่า การใส่ต่างหูสั้นข้างยาวข้างนั้นกำลังได้รับความนิยม และเป็นกระแสที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา “ต่างหูจะต้องโดดเด่น ทั้งในแง่ขนาด แนวทางการออกแบบ และความกล้าที่จะแตกต่าง” เธอกล่าว “การใช้สีสันก็กำลังมาแรง”
Charles Lawson ผู้ค้าอัญมณีในบริสเบน กล่าวว่า เขาสังเกตเห็นนักออกแบบสร้างสรรค์งานต่างหูแบบคู่ซึ่งมีสไตล์ตรงกันแต่ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ “ในแง่แฟชั่น มีต่างหูทรงพู่สีสันสดใสออกมามากมาย” เขากล่าว “แนวทางนี้สามารถปรับใช้ในเครื่องประดับอัญมณีได้ง่ายด้วยการใช้อัญมณีสีสดที่มีรูปทรงน่าสนใจเป็นอัญมณีหลัก อย่างทับทิมหน้าตัดเรียบ ทัวร์มาลีนก้อน และพู่ที่ทำจากสายสร้อย”
Lawson เชื่อว่ากระแสนี้จะแพร่ไปสู่ตลาดออสเตรเลีย “น่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นพลอยสีหลายรูปแบบถูกนำมาใช้ร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์งานออกแบบอันน่าตื่นตะลึง โดยมักจะใช้โอปอเป็นอัญมณีหลัก” ตามข้อมูลจาก Amy Bradley กรรมการบริษัท Pastiche สินค้าขายดีในช่วงฤดูร้อนคือ “ต่างหูห่วงขนาดใหญ่ที่มีรายละเอียดน่าสนใจ รวมถึงต่างหูพู่สีสันต่างๆ”
แนวทางการแต่งกายแบบเล่นเลเยอร์ซึ่งแพร่หลายไปอย่างรวดเร็วก็มีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคใส่ต่างหูต่างสไตล์ได้พร้อมกันในคราวเดียว “เนื่องจากกระแสการใส่เครื่องประดับแบบเล่นเลเยอร์กำลังเติบโต เราจึงคาดว่าต่างหูห่วงขนาดเล็กที่จับคู่กับเครื่องประดับชิ้นอื่นได้ง่ายนั้นจะมาแรงในปี 2018” Jemma Fennings อธิบาย เธอเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Olivia Burton ในลอนดอน “เรารับกระแสการเจาะหูหลายรูด้วยชุดต่างหูขนาดจิ๋วชุดใหม่ด้วย” ถ้าหากคุณคิดว่ากระแสที่แปลกใหม่เหล่านี้ฟังดูไม่เข้ากับเครื่องประดับอัญมณี คุณน่าจะลองคิดดูใหม่อีกครั้ง
แม้ว่ากระแสแฟชั่นจะผันแปรไปตลอดเวลา แต่โลหะมีค่าและอัญมณีนั้นคงอยู่กับเราไปชั่วชีวิต ด้วยเหตุนี้เองเครื่องประดับอัญมณีจึงมีอิทธิพลต่อจิตใจและควรค่าแก่การเก็บรักษา ขณะที่เครื่องประดับตามแฟชั่นนั้นถือเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลและอาจไม่จำเป็นจะต้องเก็บรักษาไว้
เส้นแบ่งระหว่างเครื่องประดับแฟชั่นและเครื่องประดับอัญมณีเลือนรางลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้จัดหาเครื่องประดับทั้งสองฝั่งได้นำเอาวัสดุและสไตล์ที่แตกต่างมาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อพยายามครองตลาดระดับกลางบน
เครื่องประดับอัญมณียังปรากฏให้เห็นในบริบททางแฟชั่นเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากบรรดาคนดังและผู้มีอิทธิพลทางแฟชั่นได้หันมาหาเครื่องประดับสั่งทำที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น เช่นเดียวกับผู้นำสไตล์ของฮอลลีวู้ดอย่างเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ในยุคแห่งความฟู่ฟ่าหรูหราช่วงทศวรรษ 1950
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าแม่แห่งแวดวงดนตรีและแฟชั่นอย่าง Beyoncé ได้ปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์อันน่าตื่นตะลึงที่งาน Grammy Awards นักร้องผู้โด่งดังรายนี้แต่งกายด้วยชุดดำทั้งตัว ประดับด้วยต่างหูห้อยที่ทำจากไทเทเนียมและเพชร 70 กะรัต ซึ่งออกแบบโดย Lorraine Schwartz และมีมูลค่ากว่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐ แล้วก็มาถึงสิ่งที่กูรูด้านสไตล์ทั่วโลกเรียกกันว่า “การกลับสู่โลกแฟชั่นของเครื่องประดับอัญมณี” เมื่อเครื่องประดับอัญมณีไม่ได้ใช้เฉพาะในโอกาสทางการเท่านั้น แต่กำลังเข้ายึดงานแสดงแฟชั่นทั่วสหรัฐและยุโรป ขณะที่ออสเตรเลียก็กำลังจะดำเนินรอยตาม
ด้วยเหตุนี้ลูกค้าจึงคาดหวังว่าผู้ขายเครื่องประดับจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดทั้งจากฝั่งเครื่องประดับอัญมณีและฝั่งเครื่องประดับแฟชั่น “เราพบว่าผู้บริโภคคอยสรรหาสิ่งใหม่ๆ ไปเพิ่มในคอลเล็กชันเครื่องประดับของตนเองอยู่เสมอ โดยมักเน้นชิ้นงานคุณภาพที่คงความเป็นอมตะเอาไว้ได้” Fennings กล่าว
ทองคำ ซึ่งแต่เดิมเป็นวัสดุหลักในเครื่องประดับสำหรับตลาดผู้ใหญ่และเครื่องประดับระดับสูง ปัจจุบันได้กลายเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ Bradley กล่าวเห็นด้วยว่า “ทองคำได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยอยู่ในเครื่องประดับแบบดั้งเดิมอย่างเครื่องทองที่เป็นมรดกตกทอดและแหวนแต่งงาน ทองคำสามารถเข้ามาสู่ตลาดเครื่องประดับแฟชั่นได้อย่างกลมกลืน” เพื่อตอบสนองกระแสดังกล่าว Dear Addison แบรนด์เครื่องประดับวัยรุ่นของ Pastiche เพิ่งเปิดตัวเครื่องประดับชุด Sunshine Collection ซึ่งวางแนวทางไว้ให้เป็น “เครื่องประดับชุบทองที่อ่อนหวานน่ารัก”
การปรากฏตัวบนพรมแดงของ Beyoncé นั้นมีความสำคัญเพราะเธอเป็นฮีโร่ของชาวมิลเลนเนียล หรือชาว Gen Y และแม้กระทั่งคนกลุ่ม ‘iGen’ ที่กำลังเติบโต ผู้บริโภครุ่นใหม่ต้องการใช้สินค้าตามอย่างเหล่าคนดัง “ทุกวันนี้สื่อสังคมออนไลน์มีความสำคัญมาก ชาวมิลเลนเนียลค้นหาแรงบันดาลใจทางออนไลน์ด้วยการติดตามคนดังที่ตัวเองรู้สึกผูกพันด้วย” Myrlund อธิบาย “คนสมัยนี้มักฟังความเห็นจากคนรุ่นราวคราวเดียวกัน และเราจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ของคนรุ่นใหม่เพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้ ซึ่งก็คือพื้นที่ใน Instagram, Facebook และ Pinterest”
Fennings กล่าวว่า Olivia Burton “มีแฟนทาง Instagram ที่คอยติดตามอย่างเหนียวแน่นและมีส่วนร่วมเต็มที่” อีกทั้งระบุว่าการสื่อสารกับลูกค้าในบทสนทนาทางออนไลน์เกี่ยวกับสินค้าใหม่ๆ นั้นช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม Thompson-Carter ชี้ว่า คนรุ่นใหม่เหล่านี้ต้องการสินค้าราคาค่อนข้างต่ำและ “ไม่มีความผูกพันทางอารมณ์หรือความรู้สึกกับสินค้าที่ซื้อไป”
“ประเด็นสำคัญอยู่ที่การสร้างรูปลักษณ์ที่ดี” เธออธิบาย “การสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์โดยนำเสนอรูปภาพที่สวยงาม คุณลักษณะที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ ตลอดจนสินค้าที่เหล่าคนดังเลือกใช้ นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคกลุ่มนี้” เพราะฉะนั้นแม้ว่าต่างหูเพชรมูลค่าล้านเหรียญของ Beyoncé จะเป็นรูปลักษณ์ที่ผู้บริโภคปรารถนา แต่นักออกแบบเครื่องประดับก็ต้องหาสมดุลที่พอดีระหว่างวัสดุกับราคา
“ความต้องการสไตล์ที่โดดเด่นอาจเพิ่มแรงกดดันให้ผู้จัดหา ตลอดจนถึงผู้ขาย ในแง่การรักษาระดับราคาให้แข่งขันได้” Bradley กล่าว พร้อมเสริมว่า Pastiche ใช้สเตนเลสสตีลเพื่อตอบสนองความต้องการต่างหูที่ดูดีมีระดับในราคาที่เอื้อมถึงได้ “การผลิตเครื่องประดับซึ่งเน้นสไตล์ที่โดดเด่นด้วยสเตนเลสสตีล ช่วยให้เราสามารถสร้างชิ้นงานขนาดใหญ่ในราคาที่น่าคบหา”
ขณะเดียวกันทางแบรนด์ยังประสบความสำเร็จจากต่างหูเดี่ยวอีกด้วย “เราพบว่ายอดขายต่างหูมีการเติบโตและได้ขยายสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น พัฒนางานออกแบบใหม่ๆ ซึ่งแยกเป็นอิสระแทนที่จะอยู่ในชุดเครื่องประดับแต่เพียงอย่างเดียว” เธอเสริม
Sandland ยังได้ชี้ว่าการนำเสนอต่างหูเดี่ยวนั้นเป็นวิธีที่เป็นรูปธรรมในการลดระดับราคาเพื่อผู้บริโภค “ต่างหูสองส่วนและต่างหูที่ใส่ได้หลายแบบเพิ่งเปิดตัวในกลุ่มสินค้าที่ Buckley London นำเสนอ และเราก็มองว่าแนวโน้มนี้จะคงอยู่ต่อไปในปี 2018” เธออธิบาย “ต่างหูเหล่านี้มีความคุ้มค่า และช่วยให้ผู้สวมใส่นำสินค้าชิ้นเดียวไปใช้ได้หลายสไตล์”
ถ้าหากการตอบสนองความต้องการเครื่องประดับอัญมณียังไม่ท้าทายพอ Lawson กล่าวว่าลูกค้ารุ่นใหม่ยังสนใจเครื่องประดับสั่งทำอีกด้วย แต่แน่นอนว่าราคาต้องอยู่ในระดับที่เอื้อมถึงได้ “ลูกค้ารุ่นใหม่ไม่ต้องการใช้เงินมากเกินไป ดังนั้นจึงเลือกซิตรินคู่ขนาดมาตรฐานหรือโอปอรูปทรงอิสระของออสเตรเลีย” เขากล่าว “ลูกค้ากลุ่มนี้เปิดกว้างเรื่องการใช้พลอยก้อนมากกว่าด้วย”
Myrlund กล่าวว่า การเติบโตของร้านค้าเครือข่ายระดับล่าง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดด้วยเครื่องประดับอัญมณีสังเคราะห์และเครื่องประดับเทียมก็นับเป็นความท้าทายที่น่ายินดี “ร้านค้ายักษ์ใหญ่อย่าง H&M และ Zara ขายต่างหูซึ่งเน้นสไตล์ที่โดดเด่นในราคาแค่หนึ่งในสิบเมื่อเทียบกับสินค้าของเรา” เธอกล่าว “แน่นอนว่าคุณภาพสินค้านั้นเทียบของเราไม่ได้เลย แต่มันก็ช่วยผลักดันให้เราทำผลงานให้เต็มที่ ทั้งในแง่การทำ
แบรนด์ การผลิต การออกแบบ และการตลาด ร้านค้าเครือข่ายเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้เราทำเต็มศักยภาพ”
เมื่อเครื่องประดับอัญมณีหรือเครื่องประดับเทียมที่มีรูปลักษณ์คล้ายเครื่องประดับแท้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น มุมมองว่าด้วยการใส่เครื่องประดับให้เหมาะสมกับโอกาสและการแต่งกายจึงเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในปี 2018 การแต่งตัวไปชายหาดแต่สวมใส่เครื่องประดับเหมือนไปงานราตรีสโมสรกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงเดนิมกับเพชร หรือเสื้อยืดผ้าฝ้ายกับทอง เราสามารถนำเครื่องประดับอัญมณีมาเสริมแต่งรูปลักษณ์ที่ดูเรียบง่ายสบายๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด
Anissa Kermiche บรรณาธิการด้านเครื่องประดับและแฟชั่นของ เขียนบทความเมื่อเดือนธันวาคม 2017 ว่า ต่างหูเดี่ยว Mobile Doré ซึ่งทำจากทอง 18 กะรัตและไข่มุกน้ำจืดนั้น “เข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนส์และเสื้อยืด”
Sandland กล่าวว่า Buckley London ก็เล็งเห็นความต้องการต่างหูที่เข้ากับเสื้อผ้าสไตล์ต่างๆ ทั้งต่างหูแบบเดี่ยวและแบบคู่ “แม้ว่าต่างหูขนาดใหญ่ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นเป็นกระแสแฟชั่นหลัก แต่เราก็พบว่าต่างหูแบบคลาสสิกเรียบง่ายก็มียอดขายเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน” เธออธิบาย “ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความต้องการต่างหูที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวันและในทุกโอกาส”
ในโลกแฟชั่น เป็นที่ทราบกันดีว่าสิ่งที่เห็นอยู่ในยุโรปและสหรัฐจะมาถึงออสเตรเลียภายในสองถึงสี่ปี ด้วยคำนึงถึงจุดนี้ นักออกแบบออสเตรเลียจึงวางแผนตามแนวโน้มดังกล่าว “เรามักปล่อยเครื่องประดับใหม่ที่น่าตื่นเต้นทันกระแส โดยบางครั้งก็ออกมาก่อนที่จะมีเสียงเรียกร้องจากผู้บริโภค” Roberts กล่าว “ตัวอย่างเช่น สินค้าชุบโรเดียมสีดำเริ่มเป็นที่นิยมอย่างสูงในปี 2018 ทั้งที่เราออกสินค้ากลุ่มนี้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017 ซึ่งตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครสนใจ
“ต่างหูห่วงขนาดใหญ่ ต่างหูที่เน้นความโดดเด่น ต่างหูชุบทองสีกุหลาบ และงานโลหะถัก ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ในปีนี้มีน้อยคนที่จะสนใจต่างหูขนาดเล็กละเอียดอ่อนตามแบบดั้งเดิม” เธอเสริม
สิ่งที่น่าสนใจและตรงกันข้ามกับความเห็นข้างต้นก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ Fennings ได้กล่าวถึงลูกค้าของทางแบรนด์ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสหราช-อาณาจักรว่า “เราสังเกตเห็นว่าลูกค้าหันเหความสนใจจากเครื่องประดับที่โดดเด่นสะดุดตาไปหาเครื่องประดับแบบเล็กจิ๋ว คอลเล็กชันของเราเน้นสัดส่วนที่ละเอียดอ่อน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่ได้เห็นคนชื่นชอบชิ้นงานขนาดเล็กกัน”
สำหรับ Bradley การผสมผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างกระแสกับรสนิยมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด “เราคอยจับตามองกระแสจากทั่วโลก” เธอกล่าว “ทีมออกแบบของเราคอยวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนชิ้นงานให้สอดคล้องกับกระแสใหม่ๆ ระหว่างการออกแบบ แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของ Pastiche อย่างชัดเจน และตอบสนองฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นของเราด้วย”
ส่วนที่ Fabuleux Vous นั้น Thompson-Carter กล่าวว่า “เราติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและสหรัฐ และพยายามเกาะติดกระแสให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากเราทำงานกับบริษัทผู้จัดหาที่ยอดเยี่ยม เราจึงสามารถนำเสนองานออกแบบที่มีคุณภาพ แปลกใหม่ และน่าสนใจออกไปสู่ตลาด”
แม้จะเป็นผู้ค้าอัญมณี แต่ Lawson ก็ยอมรับว่าแฟชั่นสำคัญต่อธุรกิจของเขาไม่แพ้กัน “ผมต้องเตรียมสินค้าไว้รับกระแสใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง ในเมื่อสีประจำปีของ Pantone เป็นสีม่วงไวโอเล็ต ผมจึงได้เตรียมจัดหาอัญมณีสีม่วงเข้มและม่วงอ่อนเอาไว้ อย่างเช่นแอเมทิสต์ การ์เนต และแซปไฟร์ เพื่อตอบสนองความต้องการ” เขากล่าว
เมื่อเครื่องประดับอัญมณีและแฟชั่นกระแสหลักกลับมาพบกันอีกครั้งในปี 2018 ความต้องการชิ้นงานที่เน้นความโดดเด่นทำให้ผู้ขายเครื่องประดับสามารถคาดหวังได้ว่าจะมีผู้ซื้อในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าผู้บริโภคจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า เป็นคนจ่ายหนักหรือประหยัดอดออม ต่างหูก็ยังคงเป็นเครื่องประดับที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกคน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
ในทุกวันนี้ สาวๆ Working Woman เช่นคุณ “แต่งตัวไปทำงาน” โดยใส่เครื่องเพชรกี่ชิ้นกันคะ? ในบางครั้งคุณอาจไม่รู้ตัวว่า การแต่งตัวไปทำงานของเรานั้นอาจดูเยอะเกิน หรือบางทีก็ดูน้อยไป
และส่วนใหญ่ตัวเราเองก็มักไม่รู้ตัวด้วยสิ ว่าอาจกำลังทำให้เพื่อนร่วมงานกระอักกระอ่วนใจที่จะบอกว่า เพชรที่ใส่มาน่ะ แสบตาเกินไปนะ
โดยปกติแล้ว ตัวบรู๊คเองชอบแต่งตัวไปทำงาน โดยใส่เฉพาะแหวนแต่งงานเพชรเม็ดเดี่ยวแบบมินิมอลหรือก็คือแบบน้อยชิ้นเข้าไว้นั่นเอง อะไรที่มีเกิน 3 ชิ้น จะเริ่มดูเยอะไป เหมาะเอาไว้ใส่ตอนกลางคืนมากกว่า ยิ่งถ้าหากใส่แหวนเพชรแต่งงานหรือใส่แหวนหมั้นด้วยแล้วล่ะก็ จะใส่เครื่องเพชรแต่งตัวไปทำงานเพิ่มอีก ก็ดูจะมากเกินความเป็นจำเป็น
ถ้าหากวันนี้คุณยังกังวลใจว่าจะ “แต่งตัวไปทำงาน” ยังไง ให้ใส่เครื่องประดับเพชรได้แต่พอดี ดูแพง แต่ก็ไม่ดูเยอะ เรามีเคล็ดลับที่สามารถใช้ได้ทุกวันมาฝากกันค่ะ
หลายๆคนอาจคิดว่าการใส่กำไรข้อมือหรือกำไรเพชรเยอะๆในคราวเดียวตอนแต่งตัวไปทำงานจะทำให้เราดูเก๋ขึ้น แต่ถ้าหากคุณต้องเดินเข้าไปในที่ทำงาน ผ่านโต๊ะเพื่อนร่วมงานมากมาย ระหว่างเดินก็มีเสียงก๊องแก๊งดังตามไปด้วย ก็อาจทำให้คุณดูไม่เป็นมืออาชีพได้ค่ะ
ทางที่ดี เลือกเครื่องประดับเพชรชิ้นเล็กๆ ใส่แต่พองาม ไม่จำเป็นต้องใส่ซ้อนๆกันจนเกิดเสียงดังเวลาเดิน จะดูแพงยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
แน่นอนว่าถ้าหากคุณใส่เครื่องเพชรแต่งตัวไปทำงาน ก็ย่อมต้องการแสงระยิบระยับจากเพชร ทำให้วันของคุณดูสดใสขึ้นได้บ้าง แต่การที่ใส่เพชรเม็ดใหญ่เกินไปจนแสงสะท้อนนั้นทำเอาคนรอบข้างแสบตาไปทั้งวัน ก็อาจทำให้ลุคของคุณดูเยอะจนเกินไป
เพราะฉะนั้น ให้คุณเลือกเครื่องประดับเพชรสำหรับการแต่งตัวไปทำงานแค่เม็ดเล็กๆก็พอ จะทำให้วันของคุณดูสดใสแพรวพราวเหมือนเพชรที่เราใส่ แล้วค่อยเก็บเอาเพชรเม็ดใหญ่ ทั้งต่างหูเพชรและสร้อยคอเพชร ไว้ใส่ในงานกลางคืน จะเหมาะกับโอกาสมากกว่าค่ะ
คุณสามารถ“แต่งตัวไปทำงาน”โดยใส่ต่างหูแบบห้อยหรือต่างหูเพชรที่มีห่วงเล็กๆ ยังถือว่าดูดี แต่ถ้าหากต่างหูเพชรของคุณเริ่มเป็นต่างหูห้อยระย้า เคลื่อนไหวไปมาตุ้งติ้งแบบเยอะเกิน ก็จะทำให้คนรอบข้างเสียสมาธิได้ค่ะ
สมมุติถ้าคุณใส่ต่างหูเพชรแบบห้อยระย้าไปสัมภาษณ์งาน แน่นอนว่าผู้สัมภาษณ์ก็คงไม่มีกะจิตกะใจจะฟังคำสัมภาษณ์ของคุณ แต่ตาก็คงจะจับจ้องไปที่เพชรวิบวับที่ห้อยตุ้งติ้งตลอดเวลาคุณขยับหัว อาจจะลดโอกาสที่คุณจะได้งานที่ฝันไว้ก็ได้ค่ะ
นี่ถือเป็นเคล็ดลับที่ดีของคนที่อยากแต่งตัวไปทำงานให้ดูแพงและไม่ดูน่าเบื่อจนเกินไป จะเป็นการดีถ้าคุณเริ่มสะสมและสร้างคอลเลคชั่นเครื่องเพชรของตัวเองไปใส่ในวันทำงาน โดยไม่ต้องซื้อเยอะชิ้น แต่ให้เลือกชิ้นที่งามพอดี ดูมีค่า และเหมาะกับชุดไปทำงานของเรา
นอกจากนี้ ถ้าหากคุณลองนึกถึงความยุ่งยากที่จะต้องมาคอยนั่งถอดเครื่องเพชร ทั้งต่างหูเพชรและสร้อยเพชรที่หนักตอนกลับมาถึงบ้านแล้วล่ะก็ จะทำให้ในตอนเช้าคุณก็จะเลือกเครื่องเพชรที่มีชิ้นพอดีๆ ถอดออกง่ายและไม่หนักเกินไปมาใช้แทนค่ะ
โดยที่มือซ้ายนั้น มักเป็นที่สวมใส่เครื่องประดับเพชรมากกว่ามือขวา เพราะคนส่วนใหญ่ที่ถนัดขวาก็มักจะใช้มือข้างนี้ทำงานต่างๆ การใส่เครื่องประดับเพชรในมือขวาตอนแต่งตัวไปทำงานจึงดูไม่ค่อยสะดวกนัก
ด้วยเหตุผลนี้ ถ้าหากเราใส่เครื่องประดับเพชรทุกอย่างลงไปที่มือซ้าย ทั้งนาฬิกาเรือนเพชร แหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน รวมไปถึงสร้อยข้อมือเพชร ก็จะทำให้มือซ้ายของคุณมีเครื่องประดับที่ดูเยอะจนเกินไป ทางที่ดีการใส่เครื่องประดับสำหรับมือซ้ายควรเลือกเพียงหนึ่งชิ้นสำคัญมาใส่ค่ะ
ซึ่งอยากแนะนำว่า ถ้าไม่ใช่นาฬิกาที่ทำให้เราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ก็เป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงานที่เรามีค่ะ
แม้คนส่วนใหญ่จะพยายามแต่งตัวไปทำงานแล้วใส่เครื่องประดับเพชรตามกฎไม่เกิน 3 ชิ้น เพราะคิดว่าจะทำให้ดูไม่มากเกินไป แต่จริงๆแล้ว การเลือกพื้นที่บนเรือนร่างของเราที่อยากให้เป็นจุดสนใจ แล้วใส่เครื่องประดับชิ้นนั้นลงไป จะทำให้ดูมีสไตล์มากกว่า แถมในวิธีนี้ คุณยังสามารถใส่เครื่องประดับซ้อนกันหลายชั้นก็ได้
โดยให้คิดถึงจุดที่อยากให้คนสนใจในแต่ละโอกาส เช่นถ้าหากเรายังคงต้องไปออกงาน Networking Party แต่ยังคงแต่งตัวไปทำงานแบบ smart casual เหมือนตอนกลางวัน การเลือกแหวนเพชรที่ดูเด่นขึ้น ก็จะทำให้เวลาคุณต้องจับมือทักทายกับคนอื่นหรือตอนถือเครื่องดื่ม จะดูมีความหรูหรามากขึ้นค่ะ
หรือถ้าหากเป็นวันที่คุณต้องพรีเซ้นต์งาน การติดเข็มกลัดเพชรดีไซน์เก๋ไว้ที่เสื้อนอก ก็จะช่วยเพิ่มจุดสนใจให้กับผู้ฟังในห้องประชุมได้ค่ะ
โดยไม่ว่าคุณจะมีบุคลิกแบบไหน ทั้งบุคลิกสาวหวานชอบแต่งหน้าอ่อนๆ หรือบุคลิกสาวมั่นที่ไม่ค่อยแต่งหน้า การเพิ่มเครื่องประดับเพชรเข้าไปตอนแต่งตัวไปทำงาน จะทำให้ลุคของคุณดูเป็นมืออาชีพ เสริมราศีให้กับคนที่ชอบแต่งหน้าอ่อนๆได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ใครที่ทำงานหนักและเหนื่อยมาทั้งคืน หากตอนเช้าดูหน้าโทรม การหาเครื่องประดับเพชรใส่ตอนแต่งตัวไปทำงาน ก็ช่วยให้ลุคเราดูสดใสมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
โดยอาจเปลี่ยนจากต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยว มาเป็นต่างหูเพชรแบบวง หรือใส่แหวนเพชรที่ใหญ่ขึ้นอีกหน่อยก็ได้ค่ะ
จากเคล็ดลับที่บอกมาทั้งหมดนี้ เราอาจมีบางวันที่อยากทำให้วันทำงานสดใส ดูเป็นตัวเรามากที่สุด ก็จะอนุญาตให้หยิบเอาเครื่องประดับเพชรเม็ดเก๋ ดีไซน์ดูเด่นมาใส่ตอนแต่งตัวไปทำงานบ้างก็ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะต้องลดโทนของการแต่งตัวให้ดูเรียบยิ่งขึ้นไปอีกด้วยนะคะ
และสำหรับใครที่ทำงานในสายครีเอทีฟหรือบริษัท startup ที่ไม่ค่อยเคร่งมากนักกับการแต่งตัว ก็ถือว่าโชคดีไป การใส่ต่างหูเพชรเม็ดใหญ่ขึ้นอีกหน่อยในทุกวัน ก็คงไม่ทำให้ใครเดือดร้อนใจแน่นอนค่ะ
นอกจากนี้เรายังมีเคล็ดลับการสร้างคอลเลคชั่นเครื่องเพชรไว้เลือกใส่ตอนแต่งตัวไปทำงานมาบอกกัน สำหรับสาวๆที่รักการสะสมเครื่องประดับเพชร จะได้วางแผนได้ถูกว่าควรซื้อเครื่องประดับเพชรไว้ใส่ในวันทำงานแบบไหน และซื้อเท่าไหร่ถึงจะเหมาะ
การเลือกซื้อเครื่องประดับเพชรเพื่อแต่งตัวไปทำงานนั้น ไม่จำเป็นต้องสะสมให้มากชิ้น แต่ขอให้มี ประเภทเครื่องประดับดังต่อไปนี้ติดเอาไว้อย่างละประมาณ 2-3 ชิ้น ก็สามารถนำเอามาจับคู่แล้วใส่วนๆไปให้แมทช์กับชุดทำงานของเราในแต่ละวันได้แล้วค่ะ
Statement Ring หรือแหวนวงหลักที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา ควรเป็นแหวนที่มีความเรียบหรูคุณภาพดี ซื้อสะสมเก็บไว้ 2-3 แบบ โดยที่ไม่ดูระยิบระยับจนเกินไป พอให้เพื่อนร่วมงานทักได้เรื่อยว่า “แหวนสวยจัง”
Stackable Ring หรือแหวนแบบเซ็ต ให้เลือกสไตล์ที่ไม่ดูใหญ่จนเกินไป โดยอาจเป็นแหวนเพชรรอบวงที่ใช้เพชรเม็ดเล็กๆ หรือเป็นแหวนเพชรเรียงคู่กันกับพลอยสีต่างๆที่สื่อความหมายดีๆก็ได้ค่ะ
โดยแหวนแบบเซตนี้ จะทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใส่แหวนในแต่ละวันได้มากขึ้นอีกด้วย ถือว่าซื้อมาครั้งเดียวแต่ใช้ได้คุ้มค่าในหลากหลายสไตล์มากๆค่ะ
ให้เลือกสร้อยคอจี้เพชรเม็ดเล็กที่มีสไตล์บอกบอกความหมายดีๆ เพื่อให้เราสามารถเริ่มต้นวันดีๆ ด้วยการสวมใส่เครื่องประดับที่มีความหมายค่ะ นอกจากนี้ การใส่สร้อยที่ยาวเกินไปก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีสะโพกใหญ่ เพราะยิ่งจะทำให้สะโพกดูโดดเด่นมากขึ้น
เพราะฉะนั้น ความยาวของสายสร้อยที่พอเหมาะจะใส่ไปทำงาน จะอยู่ที่ความยาวประมาณ 16 นิ้วถึง 18 นิ้ว ที่จะยาวลงมาพอดีกับช่วงคอ และเข้ากับชุดทำงานได้เกือบทุกชุดค่ะ
ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยว เป็นเครื่องประดับเพชรคลาสสิคที่เอาไว้แต่งตัวในวันทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะดูเรียบง่าย แต่ยังทำให้เราสามารถเฉิดฉายและดูแพงได้ในทุกวัน คุณสามารถซื้อต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวได้มากกว่า 3 คู่ เพื่อที่จะได้นำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเครื่องประดับแบบอื่นได้มากยิ่งขึ้นค่ะ
ถ้าหากคุณซื้อต่างหูเพชรแบบห้อยเพื่อใช้ใส่แต่งตัวในวันทำงาน ควรเลือกแบบที่ห้อยลงมาที่ติ่งหูคล้ายๆหยดน้ำ และทางที่ดี ให้คุณเลือกต่างหูเพชรแบบห้อยที่ไม่ขยับหรือตุ้งติ้งเลย จะทำให้ลุคของคุณดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นค่ะ
ให้เลือกสร้อยข้อมือเพชรที่ไม่ดูหนาและใหญ่จนเกินไป รวมถึงอาจมีเพชรประดับเพียงประปราย แต่ถ้าหากคุณใส่นาฬิกาแล้ว ก็ไม่ควรใส่สร้อยข้อมือเพชรเพิ่มเติมให้ดูเยอะจนเกินไปค่ะ
ให้เลือกเข็มกลัดประดับเพชรที่ดูทันสมัยและไม่ดูแก่จนเกินไป แต่ในบางครั้ง การเลือกเข็มกลัดแบบวินเทจก็สามารถนำกลับมาเข้าสมัยได้ในบางปีค่ะ
โดยตัวเข็มกลัดนั้น สามารถติดเข้ากับเสื้อนอกหรือเสื้อแจ็คเก็ต หรือถ้าหากเราใส่เสื้อคอเต่าแบบมีสไตล์ การติดเข็มกลัดไว้ก็ทำให้ลุคดูสมบูรณ์มากขึ้นค่ะ นอกจากนี้ ไม่ควรจะติดเข็มกลัดไว้บริเวณหน้าอกโดยตรง แต่ควรจะติดเหนือขึ้นมาอีกหน่อย เพราะเราต้องการให้เข็มกลัดมาเสริมราศีที่หน้า ไม่ใช่ที่หน้าอกค่ะ
หรือจะลองเอาเข็มกลัดเก๋ๆมาประดับผม เช่นเวลาที่เรารวบผมเป็นหางม้า ก็ให้เอาเข็มกลัดเพชรมากลัดไว้กับหนังยาง ก็สวยไม่แพ้กันค่ะ
เพราะเราควรทำทุกวันให้เป็นวันที่ดีและสดใส แม้จะเป็นวันทำงานก็ตาม การใส่เครื่องประดับเพชรแต่งตัวไปทำงาน ก็บ่งบอกได้ถึงความเป็นตัวคุณเอง และทำให้วันนั้นดูมีค่าขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
แต่คุณก็ควรเลือกเครื่องประดับเพชรเพียงชิ้นเล็กๆ ระยิบระยับแค่พองาม ไม่ใส่เยอะจนมีเสียงกระทบกัน และหาวิธีดึงความสนใจตามแต่โอกาสด้วยการใส่เครื่องเพชรให้ถูกที่
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเลือกเครื่องเพชรที่เหมาะแก่การแต่งตัวไปทำงานในทุกวันได้แบบดูเรียบหรูไม่กวนใจเพื่อนร่วมงาน แถมยังช่วยทำให้บุคลิกเราดูดีขึ้นได้แล้วล่ะค่ะ
และถ้าหากคุณกำลังมองหาเครื่องประดับเพชรที่ดูดี ราคาสมเหตุสมผล และสามารถใส่ได้ในทุกวัน ก็สามารถติดต่อ Above Diamond เพื่อขอคำปรึกษา และคำแนะนำเรื่องสไตล์ต่างๆได้เลยนะคะ