รวม 7 แบบแหวนหมั้นผู้ชาย สำหรับคนชอบสไตล์สุดคลาสสิก

ปกติแล้วถ้าพูดถึงการแต่งงาน เรามักจะนึกถึงสินสอดงานแต่ง แหวนหมั้น และแหวนแต่งงาน ที่เชื่อมโยงไปยังผู้หญิง โดยเฉพาะแหวน เพราะการเลือกแหวนทั้งแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัยในการแต่งงาน แต่ในยุคสมัยใหม่ผู้ชายหลายคนก็เลือกที่จะแสดงความมุ่งมั่นของตนด้วยการสวมแหวนหมั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งแหวนหมั้นของผู้ชายนั้นจะมีความเรียบง่ายกว่า ซึ่งก็มีรูปแบบแตกต่างกันไป และเพื่อเอาใจคุณหนุ่มๆ กันบ้างนั้น วันนี้ ShopBack Blog มี 7 สไตล์แหวนหมั้นผู้ชายที่สวยและคลาสสิกมาแนะนำกันค่ะ

แหวนหมั้นผู้ชายคลาสสิกมาในแบบทองคำขาว 14k จากแบรนด์ ANANTA ที่ไม่มีการตกแต่งทองคำเหลือง โรสโกลด์ หรือแพลตตินัม มีเส้นสายที่สะอาดตา องค์ประกอบที่เรียบง่าย และไม่มีรายละเอียดใดๆ เป็นแบบที่ผู้ชายหลายๆ คนชอบ เพราะสามารถใส่ได้ตลอดแม้จะผ่านพิธีแต่งงานไปแล้วก็ตาม เนื่องจากแหวนหมั้นรูปแบบนี้นิยมนำไปใช้เป็นแหวนแต่งงานเรียบๆ อีกด้วย

แหวนหมั้นผู้ชายแบบแกะสลัก เหมาะสำหรับคนที่ชอบการตกแต่งแบบพิเศษ หรือบันทึกข้อความสำคัญเอาไว้ อย่างเช่นจากแบรนด์ ZALES ที่มีงานออกแบบที่ซับซ้อน มีการทำลวดลายและการขัดสี หรือสลักข้อความพิเศษ มาในรูปแบบแหวนทองคำขาว 14k สไตล์เรียบง่ายและสง่างาม สามารถสวมได้ทุกวัน ดูเท่และคลาสสิกสำหรับรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของหนุ่มๆ ค่ะ

ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะใส่แหวนเพชรได้ เพราะแหวนหมั้นเพชรของผู้ชายก็สามารถดึงความมีสไตล์มาสู่ดีไซน์คลาสสิกได้เช่นกัน สามารถเลือกเพชรและพลอยทุกประเภทรวมถึงความแวววาวได้ตามต้องการ อย่างเช่นแหวนหมั้นเพชรจากแบรนด์ไทย FINEJEWELTHAI ที่ทำจากทองคำขาว 75% เพชรแท้ ขาว ใส น้ำหนักรวม 0.18 กะรัต ออกแบบมาอย่างพิเศษทำให้สวมใส่สบาย และใส่ติดมือได้ทุกวันไม่อับนิ้ว

สำหรับคนที่ชอบความมีสไตล์ไม่เหมือนใคร แนะนำแหวนหมั้นผู้ชายสไตล์เท่ๆ ที่ทำจากโลหะ เช่น ไททาเนียม แทนทาลัมทังสเตน โคบอลต์ เช่นแหวนจากแบรนด์ JAMES ALLEN ที่ทำจากโคบอลต์สวมใส่สบาย โดดเด่นด้วยขอบสไตล์ขั้นบันไดขัดเงา มีความแข็งกว่าทองคำขาว 4 เท่า แข็งกว่าทอง 5 เท่า และแข็งกว่าเงิน 7 เท่า โคบอลต์เป็นโลหะร่วมสมัยที่ดีที่สุด และมีความแข็งแรงที่เชื่อถือได้ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ป้องกันรอยขีดข่วน นอกจากจะเป็นวัสดุที่มีราคาย่อมเยาแล้ว ยังมีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่เท่กว่าแบบอื่นๆ ใครเป็นเจ้าบ่าวเด็กแนวต้องชอบแหวนหมั้นสไตล์นี้แน่นอนค่ะ

หลายคนชอบรูปแบบของแหวนทองมากกว่า และเลือกให้เป็นแหวนหมั้นผู้ชายและแหวนแต่งงาน ซึ่งแหวนทองนั้นเป็นที่นิยมสูงพอๆ กับแหวนหมั้นเพชร แนะนำแหวนหมั้นทองจากแบรนด์ Amore Diamond วงนี้ ที่ผสมผสานทั้งองค์ประกอบการออกแบบเข้าด้วยกันของทองคำสีเหลืองและสีขาวได้ออกมาอย่างทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน และทำจากทองคำแท้ 75% ให้ความหรูหราแบบคลาสสิกสไตล์

แหวนโรสโกลด์เป็นอีกสไตล์ที่สวยงามหรูหรา ให้สีสันที่งดงาม สีโรสโกลด์ไม่เพียงเหมาะแต่กับสาวๆ เท่านั้น เพราะยังเหมาะกับผู้ชายที่มีสไตล์อีกด้วย แนะนำแบรนด์ไทย Venlier Jewelry กับแหวนโรสโกลด์ 18k ประดับเพชร 1 เม็ด น้ำหนัก 0.27 กะรัต มาในแบบหรูหรา เรียบง่าย และสวยงาม สามารถใส่ได้ทั้งเป็นแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานผู้ชายเลยค่ะ

ถ้าคุณไม่ชอบเพชรเราขอแนะนำแหวนพลอย สำหรับคนที่ชอบแหวนหมั้นที่โดดเด่นจะต้องประทับใจกับการฝังมรกตไว้ที่แหวนหมั้นวงนี้อย่างแน่นอน จากแบรนด์ CAPUCINNE ทำจากทอง 14k ฝังมรกต ที่สามารถเลือกโลหะได้สามแบบ คือ ทองคำเหลือง ทองคำขาว หรือโรสโกลด์ ให้รูปลักษณ์ที่สวยงามสะดุดตา

สำหรับใครที่กำลังเตรียมงานหมั้น งานแต่งงาน การเลือกแหวนถือว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญ เพราะแหวนคือตัวแทนในวันสำคัญของคุณ แต่เราสามารถเลือกแหวนหมั้นผู้ชายได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รวมถึงงบประมาณที่คุณมี ใครที่ยังไม่มีไอเดียดีๆ ลองเลือกตามแบบที่เราแนะนำไว้ข้างต้นก็ได้นะคะ ลองปรับให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง เพื่อให้ได้แหวนที่คุณชอบที่สุดกันค่ะ ส่วนสาวๆ คนไหนที่ฝันเห็นเนื้อคู่ จะลองเลือกแบบแหวนแต่งงานสำหรับผู้หญิงรอไปพลางๆ ก็ได้นะคะ เพื่อที่ถึงเวลาได้เจอเนื้อคู่จริงๆ จะได้มีแบบแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานในใจแล้วยังไงหล่ะค่ะ

จะซื้อแหวนแต่งงาน ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่? รวมคำถามยอดฮิตที่เจ้าบ่าวอยากรู้แต่ไม่อยากถาม ตอบโดยเจ้าของร้านเพชร Iwarin Jewelry ตัวจริงเสียงจริง

จะซื้อแหวนแต่งงาน ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่? รวมคำถามยอดฮิตที่เจ้าบ่าวอยากรู้แต่ไม่อยากถาม ตอบโดยเจ้าของร้านเพชร Iwarin Jewelry ตัวจริงเสียงจริง

ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ รู้เลยค่ะว่าบ่าวสาวทุกคู่คงจะรัดเข็มขัดกันแบบสุดๆ วันนี้ เราเลยรวบรวมคำถามยอดฮิตเรื่องแหวนแต่งงานโดยเฉพาะ มาให้ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน GIA หรือคุณตั้ม เจ้าของร้านเพชร Iwarin Jewelry ตัวจริงเสียงจริง มาช่วยเคลียร์ทุกข้อสงสัยให้กับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันแบบหมดเปลือก

คุณตั้ม : การประเมินราคาแหวนวงนึงนั้นง่ายๆเลยครับ แหวนประกอบด้วยตัวเรือน เพชรกลางและเพชรข้าง แต่ส่วนที่เป็นมูลค่าหลักๆ เลยก็คือเพชรกลาง ซึ่งราคาของเพชร ก็มีปัจจัยหลักๆที่มีผลกับราคา อยู่ 4 อย่าง ที่หลายๆ คน อาจจะรู้จักในนามของ 4C ซึ่งก็คือ

สำหรับแหวนแต่งงานมูลค่าที่นิยมกันมากที่สุด จะอยู่ในราคาตั้งแต่ 40,000 - 100,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับลักษณะเพชรที่บ่าวสาวแต่ละคู่ต้องการครับ

ทีนี้ การจะรู้ว่าต้องเตรียมเงินเท่าไหร่เพื่อซื้อแหวนแต่งงานของคุณ ก็ต้องเริ่มต้นจากการตั้งโจทย์จากงบประมาณ หรือน้ำหนักเพชร เพื่อให้พอรู้ขอบเขตคร่าวๆ ว่าจะตัดสินใจจากอะไรเป็นหลัก

ซึ่งการเลือกเพชรให้แหวนเจ้าสาว วิธีที่ง่ายที่สุดที่ผมมักจะแนะนำบ่าวสาวอยู่เสมอก็คือ ให้กำหนดจากงบประมาณก่อนแล้วค่อยไปดูน้ำหนักเพชรครับ ถ้าเทียบดูแล้ว อยากได้น้ำหนักมากกว่านี้ ก็ค่อยขยับงบขึ้นไปตามต้องการได้

พอได้น้ำหนักเพชรมาแล้ว ก็ค่อยไปดูรายละเอียดเรื่องของน้ำ ความสะอาด และการเจียระไน ซึ่งหากส่วนไหนทำให้ราคาแหวนแต่งงานเกินงบไป เราค่อยมาขยับปรับลดให้เหมาะสมได้อีกทีครับ

ส่วนแหวนเจ้าบ่าว ปกติจะใช้เพชรขนาดไม่ใหญ่มาก น้ำหนักประมาณ 0.04 - 0.30 กะรัต ราคาก็จะอยู่ที่ 20,000 - 40,000 บาท สามารถคำนวณรวมกับงบแหวนแต่งงานทั้งหมดได้เลย

พอเลือกแหวนเจ้าสาวได้แล้ว ค่อยดูงบส่วนที่เหลือว่า แหวนเจ้าบ่าวจะสามารถไปได้ที่เท่าไหร่ และอยากแนะนำให้เจ้าบ่าวได้ลองของจริงด้วย ว่าพอใจกับขนาดเพชรที่ได้หรือเปล่า

แต่ถ้ายังไม่มีเวลาไปเลือกดูของจริงที่ร้าน ก็สามารถวาดวงกลมลองทาบนิ้วได้นะครับ ขนาดของเพชรโดยคร่าวๆ จะมีสัดส่วนประมาณนี้ครับ

คุณตั้ม : ขอตอบเป็น 2 ส่วนนะครับ คือ เรื่องน้ำหนักของเพชร และส่วนประกอบอื่นๆ ในแหวนเพชร

น้ำหนักของเพชรเป็นเพียงหนึ่งปัจจัยที่มีผลกับราคาเพชร แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ยังมีเรื่องของ น้ำ(ความขาว หรือ Color) ความสะอาด (Clarity) และการเจียระไน (Cutting) ที่มีผลกับราคาเพชรด้วย

การจะเปรียบเทียบราคาเพชรแต่ละเม็ด จึงต้องอ่านค่าทุกๆ บรรทัดในใบเซอร์ให้เข้าใจ เพราะเพชรนั้นเป็นแร่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จึงไม่มีเม็ดไหนในโลกที่จะเหมือนกันทุกรายละเอียดแบบ 100% ครับ

และถ้ามองให้ลึกกว่านั้น ปัจจัยเรื่อง Fluorescence, ลักษณะ และตำแหน่งของตำหนิก็มีผลกับราคาเพชรด้วย เช่น เพชรน้ำ 100 แต่ Fluoresence เป็น strong ราคาก็จะตกลงกว่าเพชรน้ำ 100 ที่ค่า Fluoresence เป็น none

หรือเพชรที่มีตำหนิเป็นจุดดำ คนส่วนใหญ่ไม่นิยม ราคาก็ตก ยิ่งถ้าตำหนิอยู่บนหน้าเพชร ราคาก็จะตกกว่าเพชรที่มีตำหนิอยู่บริเวณขอบ หรือก้นเพชร

นอกจากนี้ เพชรที่เจียระไนได้เกรด 3 Excellent และเหลี่ยมเพชรที่มี Heart & Arrow ก็อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ร้านแหวนแต่งงาน ขอบวกราคาเพิ่ม เพราะถือเป็นเพชรที่เกรดดีกว่าเม็ดอื่นๆ

สิ่งเหล่านี้ บางรายละเอียด ก็ไม่ได้ถูกแสดงในใบเซอร์ แต่ทาง Iwarin Jewelry เอง มีมาตรฐานในการช่วยลูกค้าดูแลส่วนนี้ให้เป็นอย่างดี ซึ่งหากลูกค้าพบว่า เพชรของทางร้านไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เรายินดีรับเคลมเพชรได้ทันทีเลยครับ

ทีนี้มาที่ส่วนประกอบอื่นๆ ในแหวนเพชร ก็มีผลกับต้นทุนของแหวนแต่งงานด้วยเช่นกัน เริ่มจากราคาทองที่ทางร้านนำมาทำตัวเรือน ทองที่นิยมทั่วไป คือ 18K แต่หากทางร้านใช้ทอง 14K หรือ 9K ที่มีเปอร์เซนต์ทองลดลง ก็จะทำให้ราคาแหวนแต่งงานถูกกว่าร้านอื่นๆ ได้

ในแหวนแต่งงาน 1 วง จึงมีทั้งราคาเพชร ราคาทอง กำไร และค่าการตลาด ซึ่งอาจจะรวมถึง ค่าเช่าที่ ค่าพนักงาน ค่า service หลังการขายที่ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายในราคาที่แพงเกินจำเป็นครับ

เช่น บริการปรับไซส์ฟรีตลอดการใช้งาน แต่ความเป็นจริงแล้ว ลูกค้าคนหนึ่ง อาจจะทำไซส์ใหม่แค่ไม่กี่ครั้งในรอบ 10 ปี โดยที่ทางร้านได้นำค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปคำนวณเรียบร้อยแล้วอยู่ในราคาแหวนนั่นเองครับ

คุณตั้ม : มี 3 ส่วนที่แนะนำให้ดูครับ ได้แก่ น้ำหนักทอง, ตำหนิเพชร และใบเซอร์ฯ

• น้ำหนักทอง ควรจะสอบถามกับทางร้านว่าเค้าใช้ทองกี่ K แล้วเป็นสิ่งที่ตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ บางครั้งร้านคิดว่าลูกค้าไม่ทราบในส่วนนี้ ก็เลือกใช้ทองเปอร์เซนต์ต่ำทำตัวเรือนให้ เพื่อที่ราคาจะได้ถูกกว่าร้านอื่นๆ

แต่หากไม่กล้าถามกับทางร้านตรงๆ ลูกค้าสามารถตรวจสอบที่ด้านในของแหวน จะพบตัวอักษรที่แสตมป์เปอร์เซนต์ทองเอาไว้เพื่อบอกว่า ตัวเรือนนี้ ใช้ทองกี่เปอร์เซนต์นั่นเองครับ

โดยทั่วไปมาตรฐานที่เราใช้กันจะเป็นทอง 18K สามารถแสตมป์ได้ 2 แบบคือ 18K หรือ 750 เพื่อบ่งบอกว่าในเนื้อโลหะ 1000 ส่วน มีสัดส่วนของทอง 750 ส่วนนั่นเอง นอกจากนี้ทองที่มี % ต่ำลงมาและมีใช้ในตลาดก็เช่น 14K, 10K, 9K ครับ

• ตำหนิเพชร ชนิดที่ควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ จุดดำ, HPHT (หมายถึงเพชรเผาปรับปรุงคุณภาพ), Laser drill hole (เพชรที่มีการเลเซอร์สลายจุดดำ, กำจัดตำหนิด้วยเลเซอร์), Cloud ที่มีขนาดใหญ่ จนมีผลกับประกายเพชร

ทั้งนี้ ตำหนิถือเป็นสิ่งที่สามารถยอมให้มีในเพชรได้ แต่ต้องเลือกให้ตำแหน่งไม่อยู่ในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน เช่นบริเวณหน้าเพชร เพราะจะมีผลต่อประกายเพชร และมูลค่าเพชรโดยตรง ซึ่ง Iwarin Jewelry จะเข้มงวดกับการคัดตำหนิเพชรก่อนส่งให้ลูกค้าเลือกเสมอ

ซึ่งการดูตำหนิในเพชรนั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญมาก และบางครั้งในใบเซอร์ก็ไม่ได้แสดงตำหนิโดยละเอียด แต่ถือเป็นหน้าที่ของทางร้านเพชร ที่จะต้องตรวจสอบตำแหน่งของตำหนิให้ไม่อยู่ในจุดสำคัญด้วยครับ

โดยเฉพาะในเพชรเม็ดใหญ่ๆ ร้านเพชรที่ดี ก็ควรจะต้องชี้ตำหนิสำคัญๆ ให้ลูกค้าได้ทราบ เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจว่า ลูกค้าสามารถยอมรับตำหนินั้นๆ ได้หรือไม่ตั้งแต่ต้นนะครับ

• ใบเซอร์ฯ สำหรับบ่าวสาวที่สนใจซื้อแหวนเพชรสำเร็จที่วางขายทั่วไป ควรตรวจเช็คใบเซอร์ว่าเลขตรงกับบนขอบเพชรหรือไม่ คุณภาพเพชรตรงตามที่ร้านค้าบอกหรือไม่, วันที่ออกเซอร์ฯ ออกมานานหรือยัง

หากเพชรเม็ดนั้นออกใบเซอร์มานานแล้ว เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพชรจากแหวนเก่าที่นำมาเปลี่ยนตัวเรือนใหม่ หรือเป็นแหวนค้างตู้ ผลิตขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ผ่านการลองสวมใส่ การหยิบใช้แหวนมาแล้วหลายครั้ง

จึงมีความเสี่ยงที่แหวนวงนั้นจะตกหล่นขณะลองสวม ทำให้คุณภาพเพชรอาจจะเปลี่ยนไปไม่ตรงกับในใบเซอร์ได้ หากมีเวลา อยากแนะนำให้สั่งทำแหวนแต่งงานวงใหม่ ใช้เพชรใหม่จะดีกว่า จะได้มั่นใจได้ในคุณภาพเพชร และลูกค้าได้สวมใส่เป็นคนแรกและคนเดียวจริงๆ ไม่ใช่แหวนที่มีคนอื่นลองมามากมายแล้วครับ

พอจะกะราคากันได้แล้วใช่มั้ยคะว่าแหวนแต่งงานของคุณจะอยู่ในงบประมาณเท่าไหร่ แต่ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกว่า แหวนเพชรขนาด 0.30 - 1 กะรัตนั้น หน้าตาเป็นยังไง ทางร้าน Iwarin Jewelry เค้าจับคู่แหวนแต่งงานตามงบประมาณมาให้คุณได้ดูภาพแหวนจริงกันด้วยตาตัวเองไปเลยค่ะ

เห็นแค่ภาพแบบนี้ หลายคนคงจะคันไม้คันมือ อยากไปลองสวมแหวนจริงกันดูใช่มั้ยล่ะคะ สามารถนัดหมายเข้าไปคุยกับคุณตั้ม ที่ร้าน Iwarin Jewelry ได้เลยที่ Fanpage: Iwarin Jewelry หรือ Line นะคะ การันตีว่า คุณต้องได้เจอกับแหวนแต่งงานในฝัน ที่ตอบโจทย์ทั้งราคา คุณภาพ และการบริการแบบมีให้คุณครบจบที่เดียวแน่นอนค่ะ

แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน เหมือนกันไหม เลือกยังไงดี ?

สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวชวนคนข้างกายมาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันเร็วๆนี้ และกำลังหาข้อมูลเรื่องแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน พี่แคชมีบทความมาช่วยคลายข้อสงสัยกันครับ

แม้ว่าแหวนหมั้น และแหวนแต่งงาน จะเป็นแหวนที่มีไว้เพื่อแสดงพันธะสัญญาตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน ระหว่างบุคคลสองคนเหมือนกัน แต่พี่แคชขอบอกเลยว่าแหวนทั้งสองประเภทก็มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ในเรื่องของโอกาสในการใช้งาน โดยมีข้อแตกต่างกันดังนี้ครับ

แหวนหมั้น หรือ Engagement Ring จะเป็นแหวนสำหรับการใช้ขอแต่งงาน หรือทำพิธีสวมแหวนในแบบไทย ตัวเรือนมักจะมีเพชรเม็ดใหญ่ตรงกลาง ไว้ใส่ทำพิธีเพื่อความสวยงาม ไม่นิยมใส่ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเพชรส่วนใหญ่จะโดดขึ้นมาจากตัวเรือน เสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวแล้วไปกระทบกับสิ่งของรอบตัว

แหวนแต่งงาน หรือ Wedding Band จะเป็นแหวนที่มีขึ้นเพื่อใช้สวมใส่ติดนิ้วในทุกวัน มักมีลักษณะเรียบง่าย ไม่สะดุดตา โดยอาจเป็นวงเรียบ หรือมีเพชรเม็ดเล็กๆล้อม

การใส่แหวนหมั้นกับแหวนแต่งงานนั้นหากต้องการใส่คู่เพื่อความสวยงามจะนิยมสวมแหวนแต่งงานที่มีลักษณะเรียบก่อนแล้วจึงสวมแหวนหมั้นที่มีเพชรสะดุดตาตาม เพราะแหวนแต่งงานจะต้องติดนิ้วตลอดเวลา สามารถถอดออก

ในการสวมใส่แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานไม่มีข้อกำหนดที่เป็นหลักตายตัว เพราะแต่ละประเทศมีประเพณีวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน เช่น ในโซนยุโรปบางประเทศใส่แหวนหมั้นนิ้วซ้าย และเปลี่ยนมาใส่แหวนแต่งงานข้างขวาเมื่อเข้าพิธี

แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะสวมใส่ที่นิ้วนาง เพราะมีความเชื่อว่าเส้นเลือดจากนิ้วนาง เป็นเส้นเลือดที่วิ่งเข้าสู่หัวใจ เปรียบดั่งเป็น คำมั่นสัญญาใจต่อกันนั่นเอง

สำหรับใครที่กำลังวุ่นวายใจว่าจะเลือกยังไงแหวนหมั้นยังไงดี? พี่แคชอยากให้คุณเริ่มต้นจากการตั้งงบประมาณในใจก่อนเลยครับ

: หากมีงบประมาณในช่วง 5,000 - 30,000 บาท และต้องการความคุ้มค่า พี่แคชแนะนำให้คุณเลือกวัสดุเป็นทองคำล้วนเลยครับ โดยในงบประมาณนี้จะได้แหวนหมั้น แหวนแต่งงานทองคำตั้งแต่ 50 สตางค์ - 1 บาท

: แนะนำให้เลือกเพชรที่ประมาณ 0.18 Carat ซึ่งราคาประมาณอยู่ที่หมื่นต้นๆ ไม่รวมตัวเรือน จากนั้นก็อาจสั่งร้านให้ทำตัวเรือนเป็นทองคำเปอร์เซ็นและน้ำหนักตามงบประมาณเงินที่เหลืออยู่

: แนะนำให้ซื้อเป็นเพชรเดี่ยวและใช้ตัวเรือนทองคำ โดยควรเลือกเพชรที่มีลักษณะคร่าวๆ ดังนี้ครับ

• None Color Grade (ระดับความขาวของเพชร) ควรอยู่ที่ น้ำ 97 - น้ำ 100 ซึ่งเมื่อเทียบตาม Level ที่ GIA ให้จะเป็นระดับ D,E,F,G นั้นเองครับ ซึ่งจะเป็นระดับความขาวที่ตาเปล่ามองเห็นเป็นสีขาวไม่อมเหลืองนั้นเอง

• None Clarify : ความสะอาด ที่บ่งบอกตำหนิบนตัวเพชร ควรอยู่ในระดับ VS1(Very Slightly Included) ขึ้นไป ที่จะไม่เห็นตำหนิด้วยตาเปล่า

• None Cutting : ความสมบูรณ์แบบในการเจียระไนผลิตเพชรออกมา ซึ่งควรอยู่ในระดับ Excellence

และที่สำคัญควรเลือกเพชรที่มีใบรับรองคุณภาพเพชรจาก GIA ซึ่งในใบรับรองจะระบุ ข้อมูลต่างๆ ของเพชร เช่น GIA Report Number ซึ่งเป็นเลขประจำตัวของเพชร ที่จะถูกแกะสลักไว้ที่ขอบเพชร และต้องส่องกล้องเท่านั้นถึงจะเห็น Shape, Carat Weight, Color Grade และ Cutting หากใครสนใจอ่านเรื่องเพชรเพิ่มเติม ศึกษาได้ที่บทความ ซื้อเพชรยังไง ให้ขายต่อได้ราคาสูง ได้เลยครับ

โดยที่พี่แคชแนะนำให้คุณเลือกโดยเน้นวัสดุตัวเรือนที่เป็นทองคำล้วนแบบนี้ เพราะนอกจากจะใช้แทนใจกันได้แล้ว ยังมีข้อดีในแง่มุมการลงทุนให้กับครองครัวของคุณในอนาคตอีกด้วย เพราะทองคำเป็นทรัพย์สินที่สามารถใช้จำนำได้ยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ต้องใช้เงินด่วน

สำหรับใครที่คิดจะเตรียมเซอร์ไพร์สขอหมั้น ขอแฟนแต่งงาน แต่ไม่รู้จะไปเลือกซื้อแหวนไซส์ไหน ขนาดเท่าไหร่ จะแอบวัดก็กลัวไม่เนียน พี่แคชขอแนะนำคร่าวๆ ดังนี้ครับ

โดยตอนไปซื้อ สามารถแจ้งน้ำหนัก ส่วนสูง แฟนเพื่อให้ร้านช่วยประเมินอีกครั้งก็ได้ครับ แต่ทั้งนี้หากซื้อไปแล้วเกิดหลวมเกินไปก็ไม่เป็นไรเพราะร้านมักจะมีบริการปรับขนาดแหวนให้ ซื้อไปเซอร์ไพร์สก่อนแล้วมาปรับขนาดแหวนอีกครั้งภายหลังก็ได้เช่นกัน

การซื้อแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน นอกจากซื้อเพราะความชอบ ความสวยงามแล้ว ในยุคนี้ก็อย่าลืมคำนึงถึงประโยชน์ในอนาคตด้วยนะครับ ว่าทรัพย์สินมีมูลค่าชิ้นนี้จะสามารถแปลงเป็นทรัพย์สินช่วยคุณได้ยามฉุกเฉินหรือเปล่า โดยหากใครที่เลือกซื้อแหวนหมั้นเรือนทอง แหวนหมั้นเพชรเรือนทองที่มีใบการันตี GIA ตามที่พี่แคชแนะนำ หรือมีทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ เช่น ทองรูปพรรณ, ทองคำแท่ง, พระเลี่ยมทอง,นาฬิกา Rolex, นาฬิกา PATEK PHILIPPE ก็สามารถนำมาประเมินราคาจำนำออนไลน์ 24 ชั่วโมงได้ที่ Cash Express รับรองว่าสะดวก รวดเร็ว จำนำทันใจ ได้เงินทันใช้ แน่นอนครับ