หลังจากสร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในวงการเครื่องประดับอัญมณีระดับสากล ทั้งในประเทศญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และฮ่องกง มาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ล่าสุด โอ๊ต-ธัญญลักษณ์ ภูริปรัชญา ผู้บริหารฝ่ายการตลาดแบรนด์ "ธามาส" (TAMAS) เอาใจเหล่าจิวเวลรี่เลิฟเวอร์ชาวไทยด้วยการจัดงานเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ พร้อมอวดโฉมเครื่องประดับอัญมณีที่รังสรรค์ขึ้นจากพลอยสีน้ำงามทั้ง 4 คอลเลกชั่น ในดีไซน์ทันสมัย สามารถตอบโจทย์คาแรคเตอร์อันหลากหลายของผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
วรรณพร โปษยานนท์, ธัญญลักษณ์ ภูริปรัชญา
พร้อมเชิญกูรูแฟชั่น ดวง-วรรณพร โปษยานนท์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร ฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ประเทศไทย มาร่วมแนะนำเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมทช์เครื่องประดับกับ 4 ลุคเด่น โดยมีเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ อาทิ เฟย์-อรชุมา ดุรงค์เดช, หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ยุคล, ปรางค์-อภินรา ศรีกาญจนา และนิดหน่อย-ขนิษฐา ดรุณเนตร มาร่วมเผยถึงเคล็ดลับการเลือกสวมใส่เครื่องประดับและจิวเวลรี่ชิ้นโปรด ที่โชว์รูม ‘ธามาส’ (TAMAS) จิวเวลรี่เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อบ่ายวันก่อน
‘ธามาส’ (TAMAS) แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีสัญชาติไทยบนมาตรฐานการผลิตที่เทียบเท่าระดับสากล ซึ่งประกอบไปด้วย เพชร, ไพลิน, ทับทิม และมรกต ผ่านฝีมือการรังสรรค์อย่างประณีตบรรจงจากช่างฝีมือมากประสบการณ์ โดยมีแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบมาจากสิ่งสวยงามรอบตัวที่แฝงไว้ด้วยความหมายเชิงศิลปะ พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้หญิงสาวผู้สวมใส่ด้วยงานดีไซน์ที่มีความทันสมัย สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน สามารถตอบโจทย์ผู้หญิงที่มีความมั่นใจที่ต้องการสร้างความโดดเด่นได้ในทุกโอกาส
โอ๊ต-ธัญญลักษณ์ ภูริปรัชญา กล่าวถึงจุดเด่นของแบรนด์และคอลเลกชั่นพลอยสีครั้งนี้ว่า “การเริ่มต้นทำแบรนด์ ‘ธามาส’ สืบเนื่องมาจากการต่อยอดธุรกิจส่งออกอัญมณีของครอบครัวที่มีมากว่า 40 ปี โดยจุดประสงค์การสร้างแบรนด์นั้น เราอยากทำเครื่องประดับอัญมณีให้ผู้หญิงสามารถใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสำเร็จแล้ว ความสวยงามและดีไซน์ของเครื่องประดับจะต้องสามารถสะท้อนถึงคาแรคเตอร์ของคนที่สวมใส่ได้ด้วย โดยงานครั้งนี้ได้เปิดตัว 4 คอลเลกชั่นที่เป็นพลอยสีทั้งหมด เพื่อเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับจิวเวลรี่เลิฟเวอร์ชาวไทย ซึ่งจริงๆแล้วเครื่องประดับที่ทำจากพลอยสีนั้นเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เพราะสามารถสะสมไว้เพิ่มมูลค่าได้
อีกทั้งยังใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลาย ไม่เหมือนเพชรที่มีแค่สีขาวอย่างเดียว ซึ่งพลอยสีของธามาสนั้นเป็นพลอยธรรมชาติที่คัดสรรมาอย่างบรรจง โดยสามารถสังเกตง่ายๆ ได้จากโทนสี อย่างทับทิมก็ต้องเป็นสีแดงสด ไพลินต้องเป็นสีน้ำเงินกำมะหยี่ มรกตก็ต้องเป็นสีเขียวที่ไม่มีสีอื่นเจือปน และพลอยที่มีขนาดตามมาตรฐานสากลจะต้องมีใบรับรอง GRS หรือ GIA ควบคู่มาด้วย โดยทั้ง 4 คอลเลกชั่นนั้นได้ถูกออกแบบมาบนดีไซน์ที่แตกต่างกันตามวาระโอกาสของการสวมใส่ รวมถึงคาแรคเตอร์ของแต่ละคน”
ด้าน ดวง-วรรณพร โปษยานนท์ ได้แนะนำเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมทช์เครื่องประดับพลอยสีกับ 4 ลุคเด่น และการเก็บรักษาว่า “การสวมใส่เครื่องประดับคือการเติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งเครื่องประดับแต่ละชิ้นจะต้องสามารถนำเสนอถึงตัวตนและเผยเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ได้ โดยการเลือกใส่เครื่องประดับพลอยสีตอนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังนิยมกันทั่วโลก เพราะคนเริ่มสนุกกับการแต่งตัวกันมากขึ้น นิยมหันมาแมทช์เครื่องประดับที่เป็นสีสันกับเสื้อผ้ากันมากขึ้น ซึ่งพลอยสีก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
และเคล็ดลับของการเลือกใส่เครื่องประดับพลอยสีให้ดูโดดเด่นนั้นควรเลือกจากดีไซน์เป็นอันดับแรก เพราะดีไซน์ที่มีความหลากหลาย โมเดิร์น จะช่วยขับลุคให้เราดูทันสมัยขึ้น จากนั้นก็เลือกจากโทนสีของพลอยแต่ละประเภทที่จะนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าในแต่ละลุค
อย่างลุคแรกเป็นลุคออกงานในแบบฉบับของผู้หญิงยุคใหม่ที่ชุดจะออกแนวโมเดิร์นและเนื้อผ้าเป็นซีทรูลงมาถึงช่วงอก จึงควรแมทช์ด้วยสร้อยคอทับทิมสีแดงธรรมชาติเส้นใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มความลงตัวกับชุดให้ดูไม่โล่งจนเกินไป รวมถึงกำไล, ต่างหู และแหวนที่เข้าเซตกันจะช่วยขับให้ลุคออกงานสำคัญดูหรูหราและโดดเด่น
ส่วนลุคสำหรับวันที่ต้องไปงานปาร์ตี้สังสรรค์ ชุดก็ควรจะเป็นเดรสสั้นสีดำประดับฟรินจ์พลิ้วๆ เพิ่มความสนุกด้วยเครื่องประดับพลอยที่ดีไซน์มีความเรียบโก้และอัญมณีมีการเล่นแสงดีเหมาะกับการใส่ไปปาร์ตี้ยามค่ำคืน อย่างสร้อยคอจี้วงรีประดับพลอยสีน้ำเงินแมทช์กับต่างหูและกำไลข้อมือสีเดียวกัน ส่วนแหวนอาจจะเลือกเป็นพลอยสีอื่นก็ได้จะได้ช่วยเสริมให้ลุคดูสนุกขึ้น
ต่อมาที่ลุคทำงานสำหรับวันที่ต้องไปพบลูกค้า อาจจะใส่เดรสขาวปาดไหล่ที่เน้นดีไซน์ให้มีความโมเดิร์นด้วยระบายรัฟเฟิลที่ประดับช่วงไหล่ แล้วเสริมด้วยต่างหูทับทิมสีแดงเท่ๆ บนดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตแมทช์กับกำไลข้อมือทับทิมเม็ดเหลี่ยมเรียบโก้ ก็จะช่วยให้ลุคทำงานดูสวยสง่าได้อย่างน่าประทับใจ
ปิดท้ายที่ลุคในชีวิตประจำวัน หรือ Everyday Look ที่เน้นการมิกซ์แอนด์แมทช์อย่างผู้หญิงยุคใหม่ด้วยชุดเสื้อกระโปรงลูกไม้สีขาวใส่กับสนีกเกอร์สีดำ พร้อมเสริมสไตล์ด้วยการใส่สร้อยคอจี้ดอกไม้สองเส้นเพื่อเพิ่มเลเยอร์ให้ดูสนุกขึ้น แมทช์กับจิวเวลรี่ชิ้นเล็กที่เข้าเซตกันอย่างต่างหูและแหวนหลายๆ วง ส่วนกำไลข้อมืออาจจะเลือกเป็นชิ้นที่ดีไซน์มีความโปร่งไม่เน้นจี้ที่เป็นรูปดอกไม้มาก เพื่อช่วยเบรกไม่ให้ลุคดูหวานจนเกินไป
ส่วนการดูแลรักษาเครื่องประดับที่ทำจากพลอยสีนั้น ถ้าไพลินกับทับทิมจะเป็นพลอยที่เนื้อยังมีความแข็งอยู่ เกิดรอยขูดขีดได้ยาก และไม่มีปฏิกิริยาต่อสารเคมีใดๆ จึงสามารถใช้น้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างจิวเวลรี่เช็ดทำความสะอาดได้ตามปกติหลังการสวมใส่ แตกต่างจากมรกตที่เป็นพลอยเนื้ออ่อนสามารถเปราะร้าวได้ง่าย ฉะนั้นเวลาใส่จึงควรระมัดระวัง ส่วนการเก็บรักษาควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาน้ำมันเคลือบไว้บางๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเปราะภายในเนื้อของอัญมณี”
โดย 4 คอลเลกชั่นที่เปิดตัวครั้งนี้ ประกอบไปด้วยพลอยสีที่มีทั้งไพลิน, ทับทิม และมรกต เริ่มจากคอลเลกชั่นไทม์เลส (TIMELESS) คอลเลกชั่นที่รวบรวมอัญมณีที่ขึ้นชื่อว่าหาชมได้ยาก ซึ่งถูกนำมาออกแบบในดีไซน์โก้หรู สามารถสวมใส่ได้ในทุกยุคสมัย และคัดสรรจากพลอยสีที่มีขนาดใหญ่เพื่อช่วยเสริมลุคสวยสง่าให้กับผู้สวมใส่ในงานสำคัญ โดยอัญมณีทุกชิ้นนั้นได้ใบรับรองแหล่งกำเนิดและคุณภาพจากสถาบัน GRS หรือ GIA ที่นักสะสมทั่วโลกต่างรู้จัก
ต่อมาที่คอลเลกชั่นเรเดียนท์ (RADIANT) นำเสนอแรงบันดาลใจจากแสงของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องในยามเช้า ซึ่งจะมีประกายที่แตกต่างกันตามช่วงเวลา ถ่ายทอดเป็นเครื่องประดับดีไซน์เรียบโก้ที่มีจุดเด่นจากการเลือกใช้อัญมณีที่มีประกายแตกต่างกายจากเทคนิคการเจียระไนทั้งแบบ Brilliant Cut และ Step Cut ที่ถูกนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัวบนแหวน, จี้ และกำไล พร้อมสร้างสไตล์อันโดดเด่นให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี
ถัดมาที่คอลเลกชั่นจีโอ (GEO) ด้วยคอนเซ็ปต์การทำจิวเวลรี่รูปแบบใหม่ที่หยิบยกความงดงามของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยมาเป็นแรงบันดาลใจ ด้วยการออกแบบที่ผสานความงดงามของอัญมณีบนดีไซน์ของรูปทรงเรขาคณิต (Geometric) ได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เครื่องประดับในคอลเลกชั่นนี้ไม่หรูหราหรือเรียบง่ายจนเกินไป สะท้อนถึงความสมดุลที่เปรียบเสมือนการใช้ชีวิตของผู้หญิงยุคใหม่ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความสนุกอีกมากมาย ซึ่งมีทั้งแหวน, จี้ และต่างหู
ปิดท้ายที่คอลเลกชั่นทรีโบล์ (TREBOL) เป็นคอลเลกชั่นที่สะท้อนถึงความหมายเชิงสัญลักษณ์ผ่านโทนสีของอัญมณีที่เกี่ยวกับความโชคดีในแต่ละด้าน อย่างสีแดงตัวแทนแห่งความรัก และความอบอุ่น, สีน้ำเงิน สื่อถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย และความมั่นคงทางธุรกิจ และสีเขียว ที่ช่วยเสริมเรื่องอำนาจ การปกครอง และหน้าที่การงาน บนดีไซน์ที่ถ่ายทอดมาในรูปทรงของใบไม้ 4 กลีบ (Four-Leaf Clover) ที่มีทั้งต่างหู, แหวน, จี้, กำไล และสร้อยคอ ที่สามารถใส่เข้าเซ็ตกันได้อย่างสวยงาม
เติมเต็มลุคให้โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยเครื่องประดับจากแบรนด์ ‘ธามาส’ (TAMAS) ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม ‘ธามาส’ (TAMAS) จิวเวลรี่เทรด เซ็นเตอร์, IG: tamas_jewelry และ Facebook: tamasjewelry