ทองคำเป็นเครื่องประดับที่ผู้คนนิยมสวมใส่กันมานาน มีหลายรูปแบบ ทั้งสร้อยคอ แหวนทอง สร้อยข้อมือ หรือแม้แต่ชิ้นเล็กๆ อย่างต่างหู แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปหลายอย่างก็เปลี่ยนตาม ทั้งแฟชั่น รูปแบบการใช้ชีวิต สภาพสังคม ทำให้มีหลายเหตุผลที่การจะซื้อทองมาใส่สักชิ้นดูจะมีเรื่องให้ต้องคิดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ใส่ยังไงไม่ให้ดูเชย ดูสวยงาม ไม่เป็นตู้ทองเคลื่อนที่ ไม่ดูโอ้อวดจนเกินงาม หรือเสี่ยงต่อการโดนโจรปล้น แต่จริง ๆ การเลือกใส่ทองให้ดูดีก็ทำได้ ซึ่งก็มีเทคนิคดังนี้
1. ขนาดทองคำ ทองคำมีน้ำหนักและขนาดที่หลากหลาย ทองรูปพรรณ ไม่ว่าจะเป็น แหวนทองที่มีขนาดตั้งแต่ 1 กรัม แหวนทองครึ่งสลึง , 1 สลึง ก็ดูพอเหมาะพอดีกับนิ้วมือผู้หญิง หรือหากเป็นแหวนผู้ชาย ขนาด 1 สลึงถึง 2 สลึงก็จะดูพอเหมาะ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป หากเป็นสร้อยคอสำหรับผู้หญิงรูปร่างเล็ก-ปานกลาง แค่ 1 สลึง - 2 สลึง มีจี้เล็กๆ ห้อยก็ดูน่ารัก ส่วนสร้อยคอผู้ชาย ขนาด 1 บาท – 2 บาท ก็ดูพอเหมาะ ควรจะมีความยาวพอสมควรที่เวลาสวมใส่แล้วปลายสร้อยยาวลงมาเก็บอยู่ในเสื้อได้ทั้งเสื้อเชิ้ตและเสื้อยืด ไม่ติดคอจนเกินไป
สร้อยข้อมือ และต่างหูสำหรับผู้หญิง ก็เน้นขนาดเล็กๆ เข้าไว้ก็จะดูไม่เยอะเกินไป ทองรูปพรรณมีทั้งแบบตีให้โปร่งๆ กับแบบตันๆ นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญในการเลือกใส่ทอง เพราะหากเป็นการใส่ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ ก็ต้องเลือกแบบตันที่แข็งแรง จะทำให้ไม่หลุดหรือขาดง่ายจนเกินไป
2. จำนวนชิ้นที่จะใส่ จำนวนทองที่ใส่ก็เป็นเรื่องสำคัญ หากใส่ทองเต็มคอ เต็มแขน คงจะถูกมองว่าเป็นตู้ทองเคลื่อนที่และยังดูอันตรายด้วย จึงไม่ควรประโคมใส่ทีเดียวหลายๆ ชิ้น อย่างมากก็ไม่เกิน 2 ชิ้น เช่น ใส่ทองสร้อยคอ 1 เส้น กับแหวน 1 วงก็พอ แต่คุณเป็นคนรักแหวน ชอบแหวน อยากใส่ทีละมากกว่า 1 วง ก็มีเทคนิคใส่แหวนมากกว่า 1 วง ให้ดูดีอยู่เหมือนกัน
3. รูปแบบหรือลวดลายทอง ทองรูปพรรณบ้านเรามีลวดลายที่หลากหลายมาก มีทั้งแบบที่ดูเรียบๆ และแบบที่มีการทำลวดลายให้ดูวิบวับ(มักจะเป็นลายที่มีคำว่า “จิก” หรือ “ตัดลาย”) เป็นประกาย หรือดูเป็นสีด้านๆ ไม่มันเงา(เนื้อทรายๆ สากๆ) หรือถ้าเป็นสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือก็มีแบบที่มีระย้า ห้อยตุ้งติ้ง หรือเป็นแบบที่มีมากกว่า 1 ลายในเส้นเดียว(ชื่อก็มักจะมีคำว่า ห้อย ข้าง ปล้อง ระย้า คั่น ตุ้งติ้ง โอ่ง เป็นต้น) ซึ่งถ้าหากเราต้องการแบบเรียบๆ สวมใส่ได้ทุกวัน ก็น่าจะเลือกแบบเรียบๆ มากกว่า เช่น แหวนปลอกมีด(เป็นแหวนเกลี้ยงๆ ไม่มีลวดลายอะไรเลย) หรือสร้อยที่เป็นลายเดียวกันตลอดทั้งเส้น เน้นเรียบง่ายเข้าไว้ นอกจากจะไม่เตะตาเกินไปแล้ว ยังมีค่ากำเหน็จที่ไม่แพงเกินไปด้วย
4. การแต่งกาย ถึงแม้ไม่ได้เกี่ยวโดยตรงกับการเลือกทอง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เครื่องประดับที่ใส่ดูกลมกลืน และส่งเสริมความสวยงามให้กัน ไม่ดู “ตั้งใจโชว์” มากเกินไป หรือเวลาที่ใส่ออกงาน ก็ต้องดูความสอดคล้องกับชุดที่ใส่ด้วย
5. การดูแลร่างกายตัวเอง เช่น ตัดเล็บ หรือดูแลเล็บให้สะอาด เรียบร้อยอยู่เสมอ ตัดหรือจัดแต่งทรงผมให้ดูสะอาดตา ไม่ยุ่งเหยิงรุงรัง ทำให้ดูหน้าตาผ่องใส นี่อาจจะเป็นเครื่องประดับที่ดูโดดเด่น งดงาม เสริมบุคลิกภาพ น่ามองยิ่งกว่าทองคำที่สวมใส่อยู่เสียอีก
ก่อนซื้อทองควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการซื้อ หากต้องการซื้อเพื่อเป็นเครื่องประดับ ก็พิจารณาตามความเหมาะสม หรือความพึงพอใจของผู้สวมใส่ แต่หากต้องการซื้อเพื่อเก็บแทนเก็บเงิน ก็ควรจะซื้อทองคำแท่งมากกว่า เพราะเวลาซื้อก็ได้ราคาถูกกว่า และเวลาขายคืนก็ได้ราคาที่ดีกว่าเช่นกัน อย่างไรก็ดี ความสุข ความพึงพอใจที่ได้สวมใส่ทองรูปพรรณก็ถือได้ว่าได้ใช้ประโยชน์ มากกว่าที่ทองคำแท่งให้ในส่วนนี้ไม่ได้ และคุ้มค่ากว่าสิ่งของอื่นที่เมื่อใช้ไปแล้วมีมูลค่าลดลงกว่าทองคำเสียอีก อย่างน้อยเมื่อถึงเวลาที่ยากลำบากก็ยังนำกลับไปขายคืนเป็นเงินได้